วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2555

Apple ปล่อย iOS 6 Beta 3 ให้นักพัฒนาได้ทดสอบแล้ว




   [17-กรกฏาคม-2555] Apple ปล่อย iOS 6 beta 3 ให้นักพัฒนาได้ทดสอบกันแล้วครับ หลังจากเว้นช่วงจาก beta 2 ไปประมาณ 3 สัปดาห์ โดยเป็นการอัพเดทผ่านทาง OTA ขนาดไฟล์ประมาณ 347MB สำหรับ iPhone และ 424MB สำหรับ The new iPad (iPad 3) ครับ
สำหรับการเปลี่ยนแปลงบน iOS 6 beta 3 หลักๆ คือ แก้ไขบั๊ก และปรับปรุงประสิทธิภาพในการใช้งาน ส่วนการเปลี่ยนแปลงในส่วนอื่นๆ สรุปได้คร่าวๆ ดังนี้


เพิ่มหน้า settings ในส่วนของ Apple Maps สามารถเลือกได้ว่า จะดูระยะทางในหน่วยไมล์ หรือกิโลเมตร และเลือกขนาดของ Label ขณะใช้งาน turn-by-turn navigation ได้


บน Safari ได้เพิ่มไอคอน bookmarks, reading list และ history ในด้านล่าง



Safari บน iPad ได้เพิ่มไอคอน reading list ไว้ในส่วนของเมนูด้านบน


Apple Maps ได้เพิ่ม detail มากขึ้น (จากรูป beta 1 > beta 2 > beta 3)


เพิ่มอีเมลที่ใช้บน iCloud จากเดิม username@me.com เป็น username@icloud.com

(c) http://www.techmoblog.com/iOS-6-beta-3/

[iOS] มาฝึกภาษาอังกฤษกันกับ Headway


   ใครว่าภาษาอังกฤษไม่สำคัญ .. ปัจจุบันนั้นภาษาอังกฤษนั้นสำคัญมาก ในอณาคตอันใกล้จะมีการเปิดเสรีการค้าที่หลายๆท่านน่าจะทราบข่าวกันดี ภาษาที่จะใช้ในการสื่อสารนั้นคงจะไม่พ้นภาษาอังกฤษนั่นเอง วันนี้เราจะมาแนะนำตัวช่วยสำหรับผู้ที่ถือ iOS กันอย่างฟรีๆเลยครับ





เราสามารถเลือกระดับจากง่ายไปจนถึงระดับยากได้


 เมื่อเลือกบทเรียนแล้ว ทาง App จะโหลดเสียงบทสนทนา ซึ่งจำเป็นต้องใช้ 3G/EDGE/Wi-Fi ในการโหลดข้อมูล

เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้วสามารถฟังพร้อมอ่านบทสนทนาได้
สามารถดาวน์โหลด Headway ได้ฟรีจาก App Store หรือ คลิกที่นี่
(c) http://appreview.in.th/headway/

ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติเด่นๆ ที่ iDevice จะได้รับเมื่ออัพเดท iOS 6



หลังจากที่เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 19 กันยายนแอปเปิลได้ปล่อยให้ผู้ใช้งาน iDevice อัพเดทเป็น iOS 6
สร้างความตื่นเต้นและเป็นที่พูดถึงของผู้คนบนโลกออนไลน์มากมาย เชื่อว่าตอนนี้ผู้ใช้งานหลายคนคงอัพเดท
เป็น iOS 6 กันไปบ้างแล้ว สำหรับใครที่อัพเดทแล้วไม่ทราบว่า iPhone, iPad หรือ iPod Touch จะใช้งาน
ฟีเจอร์อะไรได้บ้างและมีฟีเจอร์ตัวไหนที่ไม่สามารถใช้งานได้ เว็บไซต์ Techcrunch ได้รวบรวมและทำออก
มาเป็นตารางแสดงคุณสมบัติต่างๆ ที่ iDevice แต่ละรุ่นจะสามารถใช้งานได้ โดยสรุปเอามาเฉพาะฟีเจอร์เด่นๆ


(c) http://www.108blog.net/archives/7741

เรื่องน่ารู้ก่อนอัพเดทเป็น iOS 6 และวิธีอัพเดท iOS 6 แบบ OTA




แอปเปิลมีกำหนดปล่อย iOS 6 ในวันที่ 19 กันยายนนี้ ซึ่งตรงกับช่วงเที่ยงคืนวันพฤหัสตามเวลาในประเทศไทย
เชื่อว่าตอนนี้หลายคนที่ใช้งาน iPhone และ iPad กำลังรอคอยการอัพเดทและได้สัมผัสกับระบบปฏิบัติการบน
สมาร์ทโฟนตัวล่าสุดตัวนี้อย่างแน่นอน สำหรับ iOS 6 มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ที่มากถึง 200 ฟีเจอร์ ส่วนด้านราย
ละเอียดต่างๆ ทางแอปเปิลได้พรีวิวให้ดูแล้วในงานเปิดตัว New iPad ที่ผ่านมา และหลายคนที่ได้ทดลองใช้งาน
เวอร์ชั่น Beta คงทราบถึงฟีเจอร์ใหม่ต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามาแล้ว วันนี้จึงขอแนะนำสำหรับผู้ใช้งานมือใหม่ที่ต้องการ
อัพเดท iOS จากเวอร์ชั่นอื่นๆ เป็น iOS 6 กับเรื่องน่ารู้ก่อนอัพเดทเป็น iOS 6 ติดตามได้เลยครับ
เรื่องน่ารู้ก่อนอัพเดทเป็น iOS 6 
  • iOS 6 สามารถอัพเดทได้บน iPhone 3GS, iPhone 4, iPhone 4S, iPod Touch 4th Gen, iPad 2 และ
    The new iPad ต้องเป็นเครื่องแบบ Official unlocked ที่ซื้อจาก True, AIS, Dtac หรือ Apple Store Thai
  • iOS 6 จะมาพร้อมกับคีย์บอร์ดไทย 4 แถวเป็นค่ามาตรฐาน หากใครยังชอบหรือยึดติดกับคีย์บอร์ดไทย 3 แถว
    แนะนำว่าไม่ควรอัพเดทหรืออาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวในการพิมพ์สักระยะ
  • iOS 6 ไม่มีแอพฯ ดู Youtube มาให้แล้ว ซึ่งปกติใน iOS เวอร์ชั่นอื่นๆ จะมีแอพฯ Youtube มาให้เป็นแอพฯ พื้นฐาน
    หลังจากแอปเปิลทำ iOS 6 และหมดสัญญากับทางกูเกิล แอปเปิลก็เลยเอาแอพฯ Youtube ออก แต่ไม่ต้องตกใจ
    เพราะทางกูเกิลได้ออกแอพฯ ดู Youtube สำหรับ iPhone และ iPod Touch แล้วฟรี!
  • iOS 6 ไม่มีแอพฯ ดูแผนที่จาก Google Maps คงเป็นเหตุผลเดียวกับที่ไม่มีแอพฯ Youtube ซึ่งบน iOS 6 แอปเปิล
    ได้ใช้แอพฯ แผนที่ที่พัฒนาขึ้นมาเองและรองรับการใช้งานแบบ 3 มิติด้วย ซึ่งการใช้งานในประเทศไทยยังทำงานได้
    ไม่ดีเท่าไหร่นัก
  • iOS 6 มีการอินทิเกรท Facebook และ Twitter สามารถโพสต์และทวีตเพียงเลื่อน Notifications ลงมา
  • iOS 6 มีปรับปรุงให้ Siri ฉลาดขึ้นสามารถถามผลการแข่งขันกีฬา หาร้านอาหารได้ รอบหนัง แต่เมืองไทย Siri เป็น
    ฟีเจอร์ที่คนใช้งานน้อยมาก (ถ้าไม่เก่งภาษาอังกฤษ)
  • iOS 6 ใช้งาน FaceTime ผ่าน 3G ได้แล้ว เฉพาะ iPhone 4S, iPhone 5 และ The new iPad
  • iOS 6 เพิ่มแอพฯ Passbook เป็นระบบตั๋วคูปองพกพาแอพฯ เดียวอยู่ แต่ก็เป็นอีกแอพฯ ที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ในไทย
  • iOS 6 ปรับปรุงแอพฯ โทรศัพท์ใหม่ (Phone) เพิ่มวิธีรับสายแบบใหม่ โดยการลากขึ้นด้านบนเหมือนกับเปิดกล้องจากหน้า
    ล็อกสกรีน และเพิ่มเมนูช่วยเตือนให้โทรกลับภายหลัง หรือส่งข้อความแทนการรับสายได้
  • iOS 6 ฟีเจอร์ Do Not Disturb ปิดการแจ้งเตือนต่างๆ (ชอบมาก) คือปิดการแจ้งเตือนต่าง ๆ จะไม่มีการแจ้งเตือนมา
    รบกวน (ใช้กรณีที่ต้องการพักผ่อนหรือตอนนอนหลับ) โดยการแจ้งเตือนต่าง ๆ ยังคงเคลื่อนไหวตามปกติ เพียงแต่จะ
    ไม่แสดงผลให้เราทราบนั้นเอง
  • App Store ดีไซน์ใหม่ สามารถกดไลค์ แชร์แอพฯ ที่น่าสนใจไปยัง Facebook ได้
  • แชร์รูปภาพที่ต้องการใน Photo Streams ให้เพื่อนได้ผ่าน iCloud ได้
  • เพิ่มเมนูแชร์ไอคอนต่างๆ เช่น ต้องการแชร์ไปเฟซบุ๊กก็มีไอคอนเฟซบุ๊ก คล้ายๆ กับของ Android
  • iOS 6 ปรับปรุงการถ่ายภาพและมาพร้อมกับฟีเจอร์ Panorama ถ่ายภาพพาโนรามาเหมือน iPhone 5
  • ปรับปรุง Safari อ่านเว็บแบบออฟไลน์ได้ และเพิ่มฟีเจอร์ Smart app banners สำหรับแนะนำแอพฯ จากหน้าเว็บที่
    เปิดอยู่ หรือซิงก์การทำงานนั้นไปยังแอพฯ ได้และเพิ่ม iCloud Tabs สำหรับซิงก์แท็บที่เปิดในอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น ซิงก์
    ข้อมูลจากไอโฟนผ่าน Safari ได้
  • อื่นๆ อีกมากมาย ฮ่าๆ ต้องไปลองเล่นเอาเองนะครับ อันนี้เขียนตัวที่เด่นๆ เท่านั้นนะครับ
วิธีอัพเดท iOS แบบ OTA (Over The Air) ผ่าน Wi-Fi เท่านั้น (ภาพตัวอย่างเป็น iOS Beta 3)
  • ก่อนอัพ iOS 6 แนะนำให้ BackUp ข้อมูลไว้ก่อนนะครับ เผื่อเกิดข้อผิดพลาดจะได้แก้ไขได้ทัน
  • ในกรณีที่อัพเดทผ่าน iTunes ควรอัพเดท iTunes เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดก่อนนะครับ ดาวน์โหลดได้ที่นี่ 
  • เครื่องที่เจลเบรค แนะนำว่าอย่าเพิ่งอัพเดท ควรรอเวอร์ชั่นเจลเบรคนะครับ
  • อย่าลืมเช็คพื้นที่บน iPhone, iPad ก่อนนะครับ ว่าเหลือเพียงพอต่อการอัพเดทไหม โดยไปที่เมนู Usage
ดาวน์โหลด iOS 6 แบบลิงก์ตรงอัพผ่าน iTunes โดยกด Shift ค้างแล้วคลิก Check for Update
จากนั้นเลือกไฟล์อัพเดทที่ต้องการ
1. เปิดแอพฯ Settings (ตั้งค่า) > General (ทั่วไป) > Software Update (อัพเดทซอฟท์แวร์)


2. ระบบจะทำการเช็คว่ามีซอฟท์แวร์ใหม่หรือไม่ หากมีซอฟท์แวร์ใหม่ก็จะแสดงรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับซอฟท์แวร์ตัวใหม่
ในขั้นตอนนี้ให้แตะเลือก Download and Install


3. Terms and Conditions จะอธิบายเกี่ยวกับข้อกำหนดการใช้งานต่าง ๆ ให้แตะปุ่ม Agree จากนั้นจะมีข้อความแนะนำว่า
การอัพเดทซอฟท์แวร์จะทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน หาก iPhone เรามีแบตเตอรี่เพียงพอให้กด Continue ได้เลย แต่ถ้า
iPhone เหลือปริมาณแบตน้อยให้ทำการเสียบสายชาร์จก่อนกด Continue


4. เริ่มดาวน์โหลดไฟล์อัพเดท โดยจะมีสถานะแสดงการดาวน์โหลด เมื่อดาวน์โหลดเสร็จจะมีข้อความแสดง ให้แตะปุ่ม Install
เพื่อติดตั้งซอฟท์แวร์อัพเดท


5. หลังจากแตะปุ่ม Install จะมีข้อความ Verifying update เพื่อทำการตรวจสอบและยืนยันการติดตั้ง จากนั้นหน้าจอ
iPhone ก็จะเปลี่ยนเป็นสีดำ ขั้นตอนนี้ให้รอสักครู่ ระบบกำลังทำการอัพเดทซอฟท์แวร์ใหม่ เมื่ออัพเดทเสร็จ iPhone
จะ Restart เครื่องเองและจะทำการเริ่มระบบใหม่ให้อัตโนมัติ


(c) http://www.108blog.net/archives/7725

วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2555

Preview: iOS 6 Demo Hands-on ระบบปฏิบัติการใหม่ต้อนรับ iPhone 5 จาก Apple! f


:: Preview: iOS 6 Demo Hands-on ระบบปฏิบัติการใหม่ต้อนรับ iPhone 5 จาก Apple! ::





      Video Preview ของ iOS 6 ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุดจาก Apple สำหรับ iPhoneiPad และ iPod ที่เพิ่งจะเปิดตัวกันไปในงาน WWDC 2012 เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยระบบปฏิบัติการ iOS 6 เวอร์ชันเต็มจะพร้อมให้ใช้งานจริงในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ซึ่งคาดว่าจะเริ่มกันจาก iPhone 5 สมาร์ตโฟนรุ่นต่อไปของทาง Apple เอง งานนี้ ป๋าเอก TechXcite เลยขอรวบรวมคลิปวิดีโอ iOS 6 Demo Hands-on จากสื่อชั้นนำหลายแห่งทั่วโลกมาให้คุณได้สัมผัสความสุดยอดกันก่อนใครเช่นเคย!

และเร็วๆนี้รอพบกับ iOS 6 Demo Hands-on ประสาชาวไทยโดยทีมงาน TechXcite กันได้แน่นอน!!!

สรุปความสามารถใหม่ๆใน iOS 6



Siri เวอร์ชันใหม่สามารถถาม-ตอบคำถามที่มีความซับซ้อนมากขึ้นได้, เพิ่มความสามารถ Siri ถาม-ตอบเรื่องภาพยนตร์หรือกีฬาได้อย่างรู้ผลแม่นยำ, สามารถสั่ง Siri ให้เปิด App ใช้งานได้แล้ว, Siri พร้อมทำงานบน New iPad ใน iOS 6 เป็นต้นไป, เปิดตัวระบบ Eyes Free ในรถยนต์ซึ่งเป็นปุ่มพิเศษในพวงมาลัยที่สามารถกดแล้วถาม-ตอบกับ Siri ได้ทันทีโดยไม่ต้องวุ่นวายกับหน้าจอมือถือระหว่างขับรถ, เพิ่มภาษาที่ Siri สามารถรองรับได้เพิ่มเติมคือภาษาฝรั่งเศสในแคนาดา, อิตาเลี่ยน, จีนแมนดารินสำหรับไต้หวัน, กวางตุ้ง และเกาหลีใต้


Apple เปิดตัวโปรแกรมแผนที่ 3D Maps แบบใหม่ที่จะใช้งานแทน Google Maps ตัวเดิม, รองรับการสั่งงานถามเส้นทางด้วย SiriTurn-By-Turn Navigation แสดงผลเส้นทางรวดเร็วทันใจ, แสดงผลการจราจรแบบ Realtime พร้อมแนะนำเส้นทางลัดได้ตลอดเวลา, ฟีเจอร์ Flyover หรือแผนที่แสดงผลภาพแบบ 3D เต็มรูปแบบสุดอลังการงานสร้าง


-ฟีเจอร์การใช้งานของ Facebook ถูกนำมารวมไว้ใน iOS 6 แบบครบวงจร, สามารถแชร์ภาพขึ้น Facebook จาก Camera Roll ได้โดยตรง, ดูดข้อมูล Contact และ Calendar จาก Facebook มาให้คุณได้ตลอดเวลา, สามารรถกด Like หรือ Share เพลงหรือ App บน iTunes Store ขึ้น Facebook ได้ด้วย


Do Not Disturb ปิดออปชั่นนี้ไม่ให้ข้อความแจ้งเตือนเวลาที่เราไม่ต้องการ


Shared Photo Streams แบ่งปันภาพให้คนรู้จักผ่าน Photo Stream ได้พร้อมกด LikeCommentShare ได้ไม่ต่างจาก Facebook


Passbook สำหรับเก็บข้อมูลบัตรสมาชิก, ตั๋วโดยสาร หรือคูปองที่คุณสามารถหยิบยกขึ้นมาใช้งานได้ทุกที่


FaceTime สามารถใช้งานได้ผ่านเครือข่าย 3G หรือ 4G ได้แล้ว
Safari มาพร้อม iCloud tabs ซิงค์ข้อมูลการเข้าหน้าเว็บจากทุกอุปกรณ์ที่คุณใช้งาน


- เวลารับสายโทรศัพท์สามารถเลือกฟีเจอร์ส่งข้อความแจ้งอีกฝ่ายว่าเราไม่ว่างหรือติดธุระได้ หรือแม้กระทั่งให้ระบบเตือนเราให้โทรกลับหาอีกฝ่ายในภายหลังก็ยังได้


Mail เวอร์ชันใหม่เพิ่มฟีเจอร์ VIP เตือนทุกครั้งหากเมล์ของคนสำคัญส่งเข้ามาหาคุณ


Guided Access แนะนำการใช้งาน iOS 6 สำหรับเด็กที่มีปัญหาทางการรับรู้ประเภทต่างๆ


- อุปกรณ์ที่สามารถรองรับการทำงานร่วมกับ iOS 6 ได้ประกอบด้วย iPhone 3GSiPhone 4iPhone 4SiPad 2iPad 3iPod Touch 4G

(c) http://www.techxcite.com/topic/9727.html



รวมเคล็ดถนอมแบตเตอรี่ iPhone และ iPad ที่อัปเดทเป็น iOS 6

     
        ฟังทางนี้สำหรับใครที่อัปเดท iPhone หรือ iPad เป็นระบบปฏิบัติการ iOS 6 แล้วรู้สึกว่าเครื่องแบตเตอรี่หมดเร็วผิดปกติ ท่ามกลางปัญหาที่แอปเปิลยังไม่แก้ไข ต่อไปนี้คือ 10 เคล็ดไม่ลับที่คุณสามารถลงมือแก้ปัญหาเองได้ง่ายๆ เพื่อให้ไอโฟนและไอแพดที่อัปเดทเป็น iOS 6 สามารถทำงานต่อเนื่องได้นานขึ้นก่อนจะรอเวลาชาร์จครั้งต่อไป      
       แอปเปิล (Apple) นั้นเปิดตัวระบบปฏิบัติการ iOS เวอร์ชันใหม่เพื่อให้ผู้ใช้ iPhone และ iPad รวมถึง iPod Touch ได้อัปโหลดไปใช้งาน ปรากฏว่าขณะนี้ ชาวแอปเปิลทั่วโลกพร้อมใจร้องเรียนปัญหา"แบตเตอรี่หมดเร็ว"ที่เกิดกับเครื่องตระกูลไอที่อัปเดทแล้ว อย่างไรก็ตาม คำร้องเรียนนี้ถูกวิจารณ์ว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ และเป็นคำร้องเรียนมาตรฐานที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่แอปเปิลเปิดตัว iOS เวอร์ชันใหม่
      
       นับตั้งแต่ปี 2007 ที่แอปเปิลเปิดตัว iPhone แอปเปิลถูกร้องเรียนปัญหานี้เมื่อครั้งเปิดตัว iOS 3 ก่อนจะถูกร้องเรียนอีกครั้งในการเปิดตัว iOS 4 และในที่สุดก็ถูกร้องเรียนเมื่อ iOS 5 ถูกเปิดตัว จึงไม่แปลกที่คำร้องเรียนนี้จะเกิดขึ้นอีกครั้งกับ iOS 6 ซึ่งเริ่มเปิดให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดไปติดตั้งในอุปกรณ์หลายล้านเครื่องทั่วโลกช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา      
       ไม่แน่ คำร้องเรียนนี้อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้งในการเปิดตัว iOS 7 ในอนาคต ซึ่งถึงตอนนั้น สาวกแอปเปิลอาจจะชื่นชมว่าแบตเตอรี่ภายใต้เครื่อง iOS 6 (ที่มีปัญหาอยู่ตอนนี้) นั้นมีประสิทธิภาพเพียงไร
      
       อย่างไรก็ตาม นี่คือเคล็ด 10 ข้อซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในช่วงนี้ไปได้ โดยแม้จากการทดสอบจะพบว่าทุกข้อมีส่วนช่วยทำให้แบตเตอรี่เครื่องใช้งานต่อเนื่องได้นานขึ้นจริง แต่ขอแนะนำว่าชาวแอปเปิลไม่ควรเลือกปฏิบัติทุกข้อพร้อมกัน แต่ควรเลือกปิดคุณสมบัติบางอย่างที่ไม่ใช้งานในขณะนั้นตามความเหมาะสม
      
       1. ปรับทัศนคติ      
       Adrian Kingsley-Hughes แห่งคอลัมน์ Hardware 2.0 ของสำนักซีดีเน็ตบรรยายไว้ว่า เคล็ดข้อแรกที่เขาต้องการแนะนำชาว iPhone และ iPad ที่อัปเดทเป็น iOS6 คือการไม่ต้องทำอะไร หรือแปลอีกนัยหนึ่งคือ"เคล็ดลับคือไม่มีเคล็ดลับ" (tip is actually an anti-tip)
      
       นักเขียนหนุ่มรายนี้เชื่อว่า อายุแบตเตอรี่ของเครื่องที่อัปเดทระบบปฏิบัติการอาจจะไม่ได้แย่อย่างที่คิด โดยตั้งข้อสังเกตว่าคนจำนวนมากอาจจะอคติและโยนบาปให้ iOS 6 ทั้งที่ความจริงแล้วภาวะแบตเตอรี่เครื่องหมดเร็วนั้นเกิดขึ้นจากหลายปัจจัยประกอบกัน
      
       ปัจจัยเหล่านั้นอาจได้แก่ การให้ความสนใจกับ iPhone หรือ iPad มากขึ้นหลังจากอัปเดทระบบปฏิบัติการใหม่, การทดลองใช้งานเครื่องอัปเดทใหม่มากกว่าเดิม หรือการลองใช้งานคุณสมบัติใหม่ เป็นต้น
      
       ตรงนี้นักข่าวของซีดีเน็ตชี้ว่า ผู้ใช้ iPhone และ iPad ทุกคนควรจะระลึกด้วยว่าอุปกรณ์ตระกูลไอของทุกคนนั้นมีอายุเกิน 1 ปีแล้ว ดังนั้นความสามารถของแบตเตอรี่ในเครื่องย่อมเสื่อมลง โดยเฉพาะอายุการใช้งานแบตเตอรี่ต่อเนื่องที่มักจะสั้นลง 10% ตามปกติทุกปี
      
       แปลว่าผู้ใช้ iPhone 4 ซึ่งแอปเปิลเคลมว่ามีอายุสแตนด์บายต่อเนื่อง 300 ชั่วโมง ก็จะถูกลดลงเป็น 270 ชั่วโมงในปีแรก และเหลือ 240 ชั่วโมงในปีที่ 2 และเหลือ 220 ชั่วโมงในปีที่ 3
      
       นี่เป็นธรรมชาติของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่อุปกรณ์พกพาส่วนใหญ่ใช้งาน ไม่ว่าเราจะต้องการหรือไม่ ก็ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงกฎฟิสิกซ์นี้ไปได้

       2. ปรับความสว่างหน้าจอ      
       นี่คือวิธีที่ง่ายที่สุดในการยืดอายุใช้งานแบตเตอรี่ ผู้ใช้ iPhone 4 ที่เคยอัปเดทจาก iOS 4 เป็น iOS 5 อาจจะเคยพบประสบการณ์ถูกเลื่อนความสว่างเป็นระดับขีดสุดมาแล้ว ซึ่งเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นอีกเมื่ออัปเดทจาก iOS 5 เป็น iOS 6
      
       ดังนั้นลองตรวจสอบระดับความสว่างหน้าจอของเครื่อง แล้วปรับลดลงหากมันสว่างเกินความจำเป็น โดยเข้าไปตั้งค่าที่เมนู Settings เลือกที่ Brightness & Wallpaper


       3. ปิดการทำงานแอปเบื้องหลัง      
       แม้จะเรียกแอปพลิเคชันใหม่ขึ้นมาใช้งาน แต่แอปพลิเคชันที่ถูกเปิดขึ้นมาใช่งานก่อนหน้านี้ยังทำงานอยู่ แอปพลิเคชันเหล่านี้จะถูกเรียกว่า background app หรือแอปที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง ซึ่งแม้ background app ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีผลต่อแบตเตอรี่เครื่อง แต่หากเป็นแอปพลิเคชันประเภท GPS สำหรับการนำทาง ก็สามารถสูบแบตเตอรี่จากเครื่องได้ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น iOS รุ่นใด
      
       คำแนะนำในข้อนี้จึงเน้นการปิด background apps ให้บ่อยครั้ง วิธีการคือการกดปุ่มโฮม (Home button) ติดกัน 2 ครั้งเพื่อเปิดแถบมัลติทาสกิ้งหรือ multitasking bar จากนั้นกดค้างไว้ที่รูปไอคอนแอปพลิเคชัน แล้วจึงเริ่มแตะที่เครื่องหมายลบซึ่งอยู่มุมบนขวาของไอคอนแอปพลิเคชันเหล่านั้น


       4. อัปเดทแอปพลิเคชันในเครื่อง      
       หลายคนอาจไม่รู้ว่า การอัปเดทแอปพลิเคชันที่ดาวน์โหลดมาในเครื่องก็เป็นวิธีช่วยยืดอายุแบตเตอรี่เครื่องอย่างได้ผล เพราะแม้แอปพลิเคชันเดิมในเครื่องจะทำงานได้ดี แต่แอปพลิเคชันเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อทำงานกับระบบปฏิบัติการบางเวอร์ชันได้ดีที่สุด ดังนั้นเมื่อมีการอัปเดทระบบปฏิบัติการใหม่ จงอย่าลืมที่จะอัปเดทแอปพลิเคชันในเครื่องให้รองรับระบบปฏิบัติการใหม่ด้วย


       5. เปิดฟังก์ชันล็อคหน้าจออัตโนมัติ      
       ต้องบอกว่าหลายคนเห็นความแตกต่างของอายุแบตเตอรี่อย่างชัดเจนระหว่างอุปกรณ์ที่เปิดและไม่เปิดการล็อคหน้าจออัตโนมัติ การเปิดฟังก์ชันนี้จะทำให้หน้าจอเครื่องถูกพักการทำงานเมื่อไม่ได้เปิดใช้ ซึ่งทุกคนสามารถตั้งค่าได้ว่าต้องการให้ปิดหน้าจอ 1 หรือ 2 นาทีหากพบว่าหน้าจอไม่มีการใช้งาน ซึ่งไม่เพียงจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของฮาร์ดแวร์อื่นๆในเครื่องได้ด้วย
      
       วิธีการเปิดฟังก์ชันนี้ คือเลือกเมนู Settings คลิกที่ General และเปิดฟังก์ชัน Auto-Lock

       6. ปิดการเชื่อมต่อ      
       หลายบทความแนะนำให้ผู้ใช้ปิดการเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือ Bluetooth หรือ 3G ด้วยการคลิก off หรือปิด แต่สำหรับ Wi-Fi เราขอแนะนำให้คุณปิดการทำงานฟังก์ชัน Ask to Join Networks ซึ่งสามารถกดเปิดเมื่อต้องการค้นหา Wi-Fi เท่านั้น โดยฟังก์ชัน Ask to Join Networks จะมีอยู่ในเมนู Settings เลือกที่ Wi-Fi
      
       สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ สามารถตั้งค่าปิดการทำงานที่เมนู Settings เลือก General คลิก Cellular เช่นเดียวกับ Bluetooth (เลือกที่ Settings > Bluetooth) ซึ่งควรเลือกเปิดเมื่อต้องการใช้งานเท่านั้น
(c) http://www.manager.co.th/cyberBiz/viewNews.aspx?NewsID=9550000121998

วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555

มีอะไรปรับปรุงมีอะไรใหม่บ้างใน iOS 6


Maps 

ใน iOS 6 แอปเปิ้ลเลิกใช้ระบบแผนที่ของ Google หันมาใช้ระบบของตัวเอง พร้อมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแผนที่นั้นคือมุมมองแผนที่แบบ 3D และระบบนำทางแบบ Turn-by-turn โดยหน้าตาแผนที่ใน iOS 6 ได้เปลี่ยนไปพอควร สิ่งที่หายไปแน่ ๆ คือ Google Street View ที่ไม่มีในระบบแผนที่อันใหม่บน iOS 6


เท่าที่ลองใช้ระบบแผนที่อันใหม่นี้ของ iOS 6 (beta) สำหรับแผนที่ประเทศไทยยังไม่สามารถดูมุมมองแบบ 3D ได้ โดยเมื่อกดใช้ 3D แผนที่ก็จะเอียงประมาณหนึ่งแต่รูปต่าง ๆ ยังคงแบน ๆ แบบ 2 มิติเหมือนเดิม (กดไปดูที่นิวยอร์คก็เป็นเหมือนกัน) นอกจากนี้การแจ้งเกี่ยวกับการจราจรว่ารถติดหรือไม่ติดยังไม่สามารถใช้งานในกรุงเทพฯได้ รวม ๆ แล้วระบบแผนที่ของแอปเปิ้ลเรียกว่าเพิ่งตั้งไข่ ยังห่างชั้นกับ Google Maps อีกหลายก้าว


สำหรับระบบนำทางเท่าที่ได้ลองแบบคร่าว ๆ ถือว่าดีประมาณหนึ่ง โดยป้ายบอกทางบนหน้าจอถ้าเราเลือการแสดงผลเป็นภาษาไทย การบอกชื่อถนนต่าง ๆ ก็จะเป็นภาษาไทยตามไปด้วย  โดยระบบแผนที่ของแอปเปิ้ลใช้บริการ OpenStreetMap และแผนที่นำทาง TomTom ซึ่งชื่อหลังน่าจะเป็นที่รู้จักของคนที่ใช้อุปกรณ์ GPS ในรถพอสมควร แต่กระนั้นแม้จะมีชื่อ TomTom แปะมาด้วยตอนนี้ก็ไม่ได้ทำให้แผนที่ใน iOS 6 มีความโดดเด่นแต่อย่างใด โดยเฉพาะในประเทศเล็ก ๆ อย่างประเทศไทย

Siri




ถือว่าเป็นข่าวดีมาก ๆ สำหรับ Siri ที่แอปเปิ้ลกำลังจะเปิดให้ใช้งานบน iPad (3rd Gen) ได้ด้วย โดย Siri ใน iOS 6 รองรับภาษาใหม่ ๆ เข้ามาด้วยเช่นภาษาจีน, ภาษาสเปน และภาษาเกาหลี

โดย Siri ใน iPad (3rd Gen) สามารถใช้งานได้ทั้งบนรุ่น Wi-Fi และรุ่น 4G โดยการใช้งาน Siri จะเหมือนกับบน iPhone 4S คือกดปุ่ม Home ค้างไว้เพื่อเรียก Siri ขึ้นมาใช้งาน สำหรับความสามารถของ Siri ใน iOS 6 แอปเปิ้ลได้เพิ่มความสามารถเข้าไปหลายอย่างด้วยกันอย่างเช่น เราสามารถสั่งให้ Siri เปิดแอพฯต่าง ๆ บนเครื่องได้แล้ว , สั่งให้ Siri พิมพ์ข้อความแล้วส่งขึ้น Twitter หรือ Facebook เป็นต้น นอกจากนี้แอปเปิ้ลยังทำให้ Siri รู้จักการกีฬาต่าง ๆ ด้วย โดยเฉพาะผลการแข่งขัน ซึ่งตอนแรกที่เห็นบนเวทีเปิดตัวแอปเปิ้ลก็ยกตัวอย่างแต่กีฬาในประเทศตนเองเลยทำให้หวั่น ๆ ว่าแล้วกีฬายอดนิยมอย่างฟุตบอลของทางยุโรป Siri จะรู้จักด้วยหรือไม่ ปรากฏว่าพอได้ลองใช้งาน Siri รู้จักฟุตบอลลีกยอดนิยมในยุโรปด้วย เพียงแต่ตอนพูดกับ Siri ต้องใช้คำว่า Soccer แทนคำว่า Football (ลองเลือก Siri เป็นอังกฤษสำเนียงบริติชไม่รู้จักทั้ง Soccer และ Football) นอกนั้นผมลองกับ Euro 2012, Golf, Tennis, U.S. Open เหล่านี้ Siri บอกว่าไม่รู้จัก

สำหรับการสั่งงานทั่วไปเช่นสั่งให้เปิด Bluetooth ในเครื่องหรือเปิด-ปิด Wi-Fi พวกนี้ Siri ยังไม่รู้จัก โดยเมื่อสั่งแล้ว Siri จะนึกว่าเราจะค้นหาคำดังกล่าวบนเว็บแทน

FaceTime



ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ต้องนำมาบอกเล่ากันสักนิดเพราะบน iOS 6 แอปเปิ้ลจะเปิดให้ใช้ FaceTime ผ่าน 3G หรือ EDGE ได้แล้ว (ไม่ขอพูดถึง 4G LTE นะครับ) เรียกว่าต่อไปนี้เราสามารถใช้งาน FaceTime บน 3G กับ EDGE ได้แล้ว ซึ่งตรงจุดนี้ควรระวังเรื่องการใช้ดาต้าเกินกำหนดด้วยทั้งเรื่อง Fair Use Policy และคนที่ไม่ได้เปิดใช้ Data Unlimited


เท่าที่ได้ลองถ้าบน 3G ถือว่ามีความนิ่งของสัญญาณมากพอควร ภาพไม่กระตุกอะไร ส่วนการใช้งานบน EDGE ยังไม่ได้ลองเพราะใน iOS 6 (beta) ปุ่มเปิดปิด 3G ไม่มี เหลือแค่ปุ่ม Cellular Data อย่างเดียว
ผมยังไม่ได้ลองในชีวิตประจำวันตามปกตินะครับว่า 3G ชอง AIS ที่ช่วงนี้ติด ๆ ดับ ๆ จะเอาอยู่รึเปล่า

คีย์บอร์ดไทย 4 แถว



เชื่อว่าหลาย ๆๆๆๆ คนเห็นหัวข้อนี้คงยิ้มกันแก้มปริ เมื่อเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ก็เป็นไปแล้วสำหรับคีย์บอร์ดภาษาไทยบน iPhone แอปเปิ้ลได้ทำแบบ 4 แถวออกมาแล้ว โดยปุ่มตัวอักษรภาษาไทยจะมีขนาดเล็กลงกว่าเดิมเล็กน้อยทำให้กดปุ่มต่าง ๆ ยากไปนิดเพราะตัวปุ่มติดกันไปหมด

นอกจากนี้ในส่วนของ Emoji ได้มีการเพิ่มเติม Emoji 2 เข้ามาด้วย เรียกว่าตอนเลือกใช้ตาลายกันไปข้าง เพราะ Emoji ทั้งใหม่และเก่ามีจำนวนเยอะมาก ๆ

Phone 



สำหรับในส่วนของโทรศัพท์มีการปรับปรุงเรื่องปุ่มกดรับสาย-วางสายใหม่ โดยมีการแทรกปุ่มไอคอนโทรศัพท์มาอีกอันทางมุมขวา โดยเมื่อเราปัดปุ่มดังกล่าวขึ้นมาจะมีปุ่มกด Reply with Mesage กับ Remind Me later เพิ่มเข้ามา

Safari 



มีการเพิ่มความสามารถในส่วนของ iCloud Tabs ที่ต่อไปนี้ไม่ว่าจะอยู่บนเครื่องไหนเราก็ยังเปิดหน้าเว็บเดิมต่อได้, เพิ่ม Offline Reading List , เพิ่มความสามารถในการอัพโหลดรูปภาพผ่าน Safari ได้เลย (ผมลองกับระบบหลังบ้าน WordPress ยังไม่สามารถ)

รวม Facebook มาไว้ในตัว iOS


สำหรับการรวม Facebook มาไว้ใน iOS 6 จะเหมือน ๆ กับตอน iOS 5 รวมร่างกับ Twitter แต่ด้วยความที่ Facebook มีของเล่นเยอะกว่าเลยทำให้ทุกอย่างถูกผสมผสานกันเช่นเรื่องนัดหมายบน Facebook จะมาปรากฏบนปฏิทินในเครื่องเราด้วย วันเกิดเพื่อน ๆ ที่เราเห็นใน Facebook จะถูกนำมาซิงค์ข้อมูลกับสมุดโทรศัพท์ในเครื่องที่ใช้ iOS 6 ด้วย

Shared Photo Stream


ต่อไปนี้ไม่ใช่แค่เราเท่านั้นที่สามารถดูรูปใน Photo Stream จากเครื่องไหนก็ได้ที่ล็อกอินด้วย Apple ID เดียวกัน เพราะใน iOS 6 เราสามารถแชร์รูปภาพต่าง ๆ ที่เราต้องการให้กับเพื่อนหรือคนในครอบครัวดูได้ด้วย โดยการดูรูปสามารถดูได้จากอุปกรณ์ iOS 6, iPhoto for Mac และดูผ่านหน้าเว็บ

iTunes Store และ App Store ปรับปรุงหน้าตาแบบใหม่


หน้าตา iTunes Store ขายหนัง ขายเพลง โฉมใหม่ใน iOS 6 (iPad)
หน้าตา App Store ขายแอพฯ โฉมใหม่ใน iOS 6 (iPhone)

สำหรับทั้ง 2 สโตร์มีการปรับปรุงโฉมขนานใหญ่ ถ้าดูจากรูปจะเห็นต่างไปจากเดิมพอสมควร โดยสิ่งที่ปรับปรุงเข้ามานอกจากหน้าตาแล้วจะเป็นเรื่องการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับแอพฯดังกล่าวที่เรากำลังดูอยู่ไปยังอีเมล,  ข้อความ, เฟสบุ๊ก และสามารถก็อปปี้ลิงค์ของหน้าเพจแอพฯไปแปะยังที่อื่น ๆ ได้เลย เท่าที่ดูเหมือนว่าจะขาดเรื่อง Gift This App ที่ยังไม่เห็นใน iOS 6 (beta) นี้

Music เปลี่ยนไป

สำหรับหน้าตาภายในแอพฯ Music บน iPhone พอกดเข้าไปจะพบว่ามีหน้าตาเปลี่ยนไป โดยหน้าตาแบบนี้มีกลิ่นอายมาจาก iPad โดยสีของเมนูบาร์ด้านล่างโดนเปลี่ยนเป็นโทนสว่างด้วยสีขาวต่างจากของเดิมที่เป็นสีดำ มีการเปิดแสงเงาเล็กน้อยให้รู้สึกว่าเหมือนเรากด ๆ อะไรอยู่ ส่วนหน้าตาของแอพขณะเล่นเพลงก็เปลี่ยนไปพอสมควร

Passbook (แอพฯใหม่เฉพาะใน iOS 6)



คอนเซ็ปท์ของแอพฯ Passbook ประหนึ่งว่าเป็นตัวคอนจัดการสารพัดเกี่ยวกับบัตรสมาชิกของร้านค้าต่าง ๆ แทนที่เราจะต้องพกบัตรพลาสติกจริง ๆ ก็ไม่ต้องพกกลายเป็นว่าให้ร้านค้าต่าง ๆ ทำระบบรองรับแอพฯ Passbook แทน นอกจากจะใช้ร่วมกับสารพัดบัตรสมาชิกได้แล้ว พวกคูปองส่วนลดต่าง ๆ ก็สามารถประยุกต์ใช้กับแอพฯนี้ได้ด้วย โดยถ้าเป็นคูปองที่มีการจำกัดเวลาหรือใกล้ถึงวันหมดอายุตัวแอพฯก็จะมีการเตือนขึ้นมาด้วย หรืออย่างตั๋วหนัง บัตรดูคอนเสิร์ตก็สามารถใช้ Passbook ได้ด้วย

สำหรับอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจสำหรับการใช้แอพฯ Passbook คือสายการบินต่าง ๆ ที่สามารถทำให้ระบบใช้กับ Passbook ได้ก็จะสะดวกมากขึ้น โดยการเตือนเวลาเราเดินไปขึ้นเครื่องบินถ้าเราเดินไปผิดทางหรือเข้าไปรอผิดเกทตัวแอพจะมีการเตือนขึ้นมาด้วย โดยตรงจุดนี้นอกจากสายการบินแล้วเชื่อว่าระบบของสนามบินก็ต้องรองรับด้วย

โดยรวมสำหรับแอพฯ Passbook คอนเซ็ปท์ดีมาก ๆ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเกิดรึเปล่า แต่สิ่งที่หนึ่งหลังจากเห็นแอพฯนี้เชื่อลึก ๆ ว่า iPhone รุ่นใหม่น่าจะมีความสามารถของ NFC ติดมาด้วย ซึ่งถ้ามีก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน Passbook ให้หลากหลายขึ้นไปอีก ซึ่งถ้า iPhone รุ่นใหม่มี NFC จริง ก็หวังว่าในบ้านเราจะนำมาประยุกต์ใช้กับบัตร BTS, MRT และ ARL ในอนาคต
แอพฯ Passbook ไม่มีใน iPad นะครับ เท่าที่ลองตอนนี้มีแน่ ๆ ก็คือใน iPhone ส่วนใน iPod touch ผมยังไม่ได้ลองครับ ถ้าได้ลองแล้วจะมาอัพเดทอีกครั้งหนึ่ง

iOS 6 ออกมาให้ดาวน์โหลดหรือยัง ?

ปัจจุบัน iOS 6 (beta) เปิดให้ดาวน์โหลดสำหรับนักพัฒนาแอพฯแล้ว และผู้ใช้งานทั่วไปแอปเปิ้ลบอกว่าจะเป็นให้ดาวน์โหลดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งจะตรงกับช่วงเดือน ก.ย.-พ.ย. ซึ่งก็ต้องมาเดาใจแอปเปิ้ลว่าจะเป็นเดือนไหนกันแน่ ซึ่งถ้า iOS 6 ออกเดือนไหนก็คงมี iPhone ใหม่ออกมาด้วย

เครื่องไหนยังลง iOS 6 ได้บ้าง ?



ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าแอปเปิ้ลยังเปิดให้ iPhone 3GS ลง iOS 6 ได้อยู่ด้วยและผิดคาดไปเล็กน้อยที่ iPad รุ่นแรกไม่อยู่ในรายชื่อการอัพเดทครั้งนี้ โดยเครื่องที่ลง iOS 6 ได้มีดังนี้
  • iPhone 3GS, iPhone 4 และ iPhone 4S
  • iPod touch 4G
  • iPad 2 และ iPad (3rd Gen)
(c) http://www.siampod.com/2012/06/12/preview-ios-6-beta/